ป๊อกเด้ง หรือป๊อกเด้งออนไลน์ของเว็บ Zabbet168 เป็นเกมที่ผู้เล่นเดิมพันหลายคนต่างคุ้นหูเป็นอย่างดีโดยเฉพาะผู้เล่นเดิมพันคนไทย แถมเกมไพ่เป็นเกมที่มีความคล้ายคลึงกับเกมออนไลน์ยอดนิยมในคาสิโนออนไลน์อย่าง เกมบาคาร่า เกมคาสิโนที่ผู้เล่นเดิมพันเล่นกันเป็นจำนวนมากอีกด้วย กติกาการเล่นที่เรียบง่ายไม่ซับซ้อน เป็นเกมที่น่าสนใจมากตรงรางวัลที่จะได้จากการเล่น ซึ่งมีโอกาสที่จะได้รับเงินรางวัลถึง 5 เท่า นั่นจึงเป็นเสน่ห์ที่ดึงดูดนักพนันหลายๆ คนให้เข้ามาเล่นเพื่อลุ้นเงินรางวัลที่คุ้มค่า ในส่วนของวิธีการเล่นป๊อกเด้งนั้นก็ไม่ต่างจากการเล่นแบบปกติทั่วไป โดยจะมีเจ้ามือ และผู้เล่นเป็นผู้ดำเนินเกม และถ้าหากผู้เล่นท่านใดที่จะสนใจสมัครสมาชิกที่จะเล่นเกมคาสิโนออนไลน์สมัครได้ที่เว็บไซต์เลยกับเราวันนี้ พร้อมเข้าสู่เกมออนไลน์และสามารถทำกำไรไปด้วยกัน
ป๊อกเด้งคืออะไร ?
ไพ่ป๊อกเด้ง เป็นรูปแบบการเล่นเดิมพันด้วยไพ่ประเภทหนึ่งที่ผู้เล่นหลายคนรู้จักกันเป็นอย่างดี ซึ่ง 8 ใน 10 คนของนักเสี่ยงโชคนั้นรู้จักไพ่ ซึ่งเป็นไพ่ที่มีวิธีในการเล่นค่อนข้างง่ายและมีอัตราในการจ่ายรางวัลที่สวยงามตามไพ่ที่ผู้เล่นได้รับ โดยเกมไพ่นั้นผู้เล่น สามารถกำหนดได้ว่าจะเล่นกี่มือ ซึ่งในแต่ละมือจะได้รับไพ่ 2 ใบ และขอเพิ่มอีก 1 ใบเพื่อสู้คะแนน กับเจ้ามือไพ่ จะตัดสินแพ้ชนะการเดิมพันด้วยคะแนนของไพ่ทั้งหมดบนหน้าตัก รวมกัน(แยกเป็นมือ) และมีคะแนนไม่เกิน 9 คะแนนซึ่งคล้ายกับบาคาร่า เพียงแต่ไพ่ป๊อกจะมีความพิเศษมากกว่านั้น ซึ่งหากเกิน 9 คะแนนจะนับคะแนนใหม่ เช่น 15 คะแนน เท่ากับผู้เล่นได้ 5 คะแนน
กติกาในการเล่นเกมป๊อกเด้งออนไลน์
เกมไพ่ป๊อกเด้งเป็นเกมที่เล่นง่าย กติกาไม่ซับซ้อนก็จริง แต่สำหรับนักเดิมพันมือใหม่ที่ยังไม่เคยเล่นเกมไพ่ออนไลน์มาก่อนเลย ก็ต้องทำความเข้าใจกติกาพื้นฐานก่อนเล่นให้เข้าใจก่อนเสมอ เพื่อประโยชน์ของตัวผู้เล่นเอง
การนับแต้มไพ่ ป๊อกเด้งออนไลน์
การนับแต้มในเกมไพ่ออนไลน์ไม่ได้มีความซับซ้อน โดยจะแบ่งการนับแต้ม ได้ดังนี้
- A มีค่าเท่ากับ 1 แต้ม
- 10 มีค่าเท่ากับ 0 แต้ม
- J มีค่าเท่ากับ 0 แต้ม
- Q มีค่าเท่ากับ 0 แต้ม
- K มีค่าเท่ากับ 0 แต้ม
- ไพ่ K หัวใจ กับ 8 หัวใจ จะเรียกว่าไพ่ป๊อก 8 สองเด้ง
- ไพ่ 8 หัวใจ กับ 8 ข้าวหลามตัด จะเรียกว่า 6 แต้มสองเด้ง
- 2 – 9 มีค่าเท่ากับเลขที่บนไพ่ อย่างเช่น 2 มีค่าเท่ากับ 2 แต้ม หรือ 3 มีค่าเท่ากับ 3 แต้ม
การวัดผลแพ้ และผลชนะ
การวัดผลแพ้ผลชนะไม่ยาก เพียงแค่ผู้เล่นได้แต้มมากกว่าเจ้ามือ ก็ชนะไปเลย ซึ่งแต้มสูงสุดในเกมก็คือ 8 – 9 แต้ม ซึ่งจะเรียกว่า ไพ่ป็อก 8 กับ ไพ่ป็อก 9 ถ้าฝ่ายเจ้ามือได้แต้ม ป็อก 8 กับ ป็อก 9 ก็จะไม่มีการจั่วไพ่ใบที่สามเกิดขึ้น ฝ่ายเจ้ามือก็จะชนะไปเลย แต่ถ้าหากมีแต้มเท่ากันกับฝ่ายเจ้ามือ ก็จะเรียกว่า ชน หรือเสมอกัน หรือถ้าหากฝ่ายเจ้ามือได้ป๊อก 8 แต่ ฝ่ายผู้เล่นได้ป็อก 9 ทางฝ่ายผู้เล่นก็สามารถชนะได้เหมือนกัน แต่กรณีที่เจ้ามือเอง ไม่ได้ป็อกใดๆ ฝ่ายทีมผู้เล่นก็สามารถขอจั่วไพ่ใบที่สามได้ หรือถ้าฝั่งไหนอยู่ หรือไม่เรียกไพ่ใบที่สามเพิ่มแล้ว ก็ไม่ต้องขอเพิ่ม
ลักษณะแต้มพิเศษ
ลักษณะของไพ่พิเศษจะมีอยู่ทั้งหมด 6 รูปแบบด้วยกัน คือ ไพ่สองเด้ง ไพ่สามเด้ง ไพ่เซียน ไพ่เรียง ไพ่สเตรทฟลัช และไพ่ตอง (ไพ่ลักษณะพิเศษจะไม่สามารถชนะไพ่ป๊อก 8 และไพ่ป๊อก 9ได้) สำหรับอัตราการจ่ายเงินของไพ่พิเศษจะแตกต่างกันออกไป เริ่มตั้งแต่ 1-5 เท่า ตามรูปแบบของไพ่นั้นๆ
- ไพ่สองเด้ง
จะเกิดขึ้นในรอบการเล่นไพ่สองใบเท่านั้น โดยไพ่ที่จะได้สองเด้งต้องเป็นเลขเดียวกัน หรือมีดอกเดียวกัน ตัวอย่างเช่น K ข้าวหลาม และไพ่ 9 ข้าวหลาม หรือ 4 ดอกจิก และ 4 ข้าวหลามตัด ถ้าหากชนะผู้เล่นจะได้เงินรางวัลจากการเดิมพันเป็๋น 2 เท่า
- ไพ่สามเด้ง
จะเกิดขึ้นในรอบการเล่นไพ่สามใบ โดยไพ่ทั้งสามใบ จะต้องเป็นไพ่ดอกเดียวกันทั้งหมด ตัวอย่างเช่น Q ดอกจิก 6 ดอกจิก และ 3 ดอกจิก ถ้าหากชนะจะได้รับเงินรางวัลจากการเดิมพันเป็น 3 เท่า
- ไพ่เซียน
หรือเรียกอีกอย่างว่า 3 ฝรั่ง ได้แก่ ไพ่ K Q J โดยในชุดไพ่เซียนสามารถมีไพ่หน้าซ้ำกันได้ (และถ้าซ้ำกันทั้ง 3 ใบจะกลายเป็นไพ่ตองในทันที) ตัวอย่างเช่น K หัวใจ K ข้าวหลามตัด J ข้าวหลามตัด ถ้าหากชนะจะได้รับเงินรางวัลจากการเดิมพัน 3 เท่า
- ไพ่เรียง
คือไพ่สามใบที่มีแต้มเรียงกันโดยไม่จำเป็นต้องมีดอกเดียวกัน ยกเว้น A 2 3 และ K A 2 กรณีนี้จะนับแต้มตั้งแต่ 2 ขึ้นไป เพราะ A คือไพ่ใหญ่สุด ตัวอย่างเช่น Q ข้าวหลามตัด K ดอกจิก และ A หัวใจ ถ้าหากชนะจะได้รับเงินรางวัลจากการเดิมพัน 3 เท่าเช่นเดียวกับไพ่เซียน
- ไพ่สเตรทฟลัช
คือไพ่สามใบที่มีแต้มเรียงกัน และต้องเป็นดอกเดียวกันเท่านั้น ตัวอย่างเช่น 5 ข้าวหลามตัด 6 ข้าวหลามตัด และ 7 ข้าวหลามตัด ถ้าหากชนะจะได้รับเงินรางวัลจากการเดิมพัน 5 เท่า
- ไพ่ตอง
เป็นไพ่ใหญ่สุดในช่วงเล่นไพ่แบบสามใบ จะต้องเป็นไพ่ที่มีตัวเลขเดียวกันทั้งสามใบ ตัวอย่างเช่น 9 ข้าวหลามตัด 9 ดอกจิก และ 9 หัวใจ ถ้าหากชนะจะได้รับเงินรางวัลจากการเดิมพัน 5 เท่าเช่นเดียวกับไพ่สเตรทฟลัช
สรุปทิ้งท้ายบทความ
การเล่นไพ่ออนไลน์นั้นมีเทคนิคและวิธีการเล่นพื้นฐานง่ายๆ สำหรับผู้เล่นมือใหม่ หากในการเล่นไพ่ของหน้าตักผู้เล่นนั้น เมื่อได้ 2 ใบ แล้วรวมกันได้คะแนน 0-4 คะแนน ให้ทำการขอไพ่ใบที่ 3 จากเจ้า หรือ เรียกว่า “จั่ว” ซึ่งการลุ้นไพ่ใบที่ 3 จะทำให้มีโอกาสในการเพิ่มแต้มคะแนนบนมือได้ เช่น ไพ่สองใบ 10 และ 3 เท่ากับ 3 คะแนน จั่วได้ไพ่ A จะเท่ากับ 10 + 3 +1 รวม 4 คะแนน เป็นต้น ข้อควรระวังในการเล่นไพ่ป๊อก เด้งออนไลน์ ผู้เล่นไม่ควรขอไพ่เพิ่มในกรณีที่มีคะแนนรวมตั้งแต่ 5 ขึ้นไป เพราะ ความเสี่ยงในการต่อจั่วไพ่แต้มสูงและจะส่งผลทำให้แต้มบนมือนั้นลดลง หากได้ 6 7 หรือ 8 ก็เพียงพอต่อการลุ้นชนะเดิมได้แล้ว และข้อสุดท้ายในการเล่นไพ่ป๊อก เด้ง คือ ผู้เล่นควรกำหนดต้นทุนในการเล่นและกำไรที่ต้องการให้ชัดเจนเพื่อเป็นจุดกำหนดการหยุดเล่นในกรณีที่ขาดทุนและได้กำไร สมัครสมาชิกทันที
